วันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ร้าน Lamune ( ละมุน)

ย้ายบ้านใหม่ครับ ตามมาที่ www.pencil2pens.com

ร้านเครื่องเขียน  Lamune ( ละมุน)

ก่อนที่จะรีวิวสินค้าในร้านนี้ต้องร่ายยาวๆกันซะหน่อย เหตุเกิดจาก ผมนัดลูกลูกค้าที่ Siam Paragon หลังจากเสร็จนัดแล้ว ผมเห็นเด็กๆแถวนั้นแล้วอดใจไม่ไหวครับ อยากเข้าไปอุ้มหรือหอมซักฟอด ผมหมายถึงเด็กเล็กจริงๆนะ  หลังจากดู หนังวัยรุ่น ยัยเป็ดขี้เหร่ ไม่ค่อยรู้เรื่องและห่างเหินชีวิตวัยรุ่นพอสมควรเลยขอปล่อยแก่ซักวันหนึ่ง สยามวันนี้เปลี่ยนไปมากเลยครับผมไม่ค่อยเห็นคนรุ่นผมเดินกัน เมื่อ20 กว่าปีก่อน เห็นแต่คนรุ่นผม555 

เดินไปเดินมาเดินผ่านสยามซอย10 กำลังจะหาไอติมกินพอดี เหลือบไปเห็นป้าย Lamune (ละมุน) แรกๆอ่านว่าละมุดก็ผมหิวนิในใจคิดไม่ร้านไอติมก็ร้านกาแฟแน่นอน พอเดินเข้าไปดูใกล้ๆละมุนเลยคราวนี้ คิดในใจไม่เสียเที่ยวแน่นอนเจ้าของร้านน่ารักมากถึงมากที่สุด ไปไกลละที่ไม่เสียเที่ยวคือ ผมเจอร้านเครื่องเขียนในฝันละขอบอกว่าจัดร้านได้สวยมากครับสวยทั้งร้านทั้งเจ้าของ555  หลังจากดูสินค้าได้ซักพัก นึกในใจจะขอสินค้ากลับบ้านไปเขียนรีวิวดีกว่าท่าทางเจ้าของใจดีหลอกง่าย แต่สุดท้ายไม่กล้าครับ เจ้าของยิ้มแบบซื้อเถอะไอ้เราก็ตังห์หมดจากอาวุธหนักปากกาหมึกซึมไปละ เลยแกล้งว่าต้องรีบกลับละมีนัด เลยบอกว่าเดี๋ยวจะเขียนแนะนำร้านให้นะ  จากวันนั้นผมก็ยุ่งจนไม่มีเวลาเขียน ผ่านไปซักสองอาทิตย์อยู่ๆร้านนี้ก็ติดต่อมาหลังไมค์ว่ามีอะไรให้ช่วยไหม ผมงงอย่พักหนึ่งเราไม่ได้บอกเขานี่หน่าว่าเราเป็นเวปรีวิวดินสอปากกา เลยได้โอกาสเลยพิมกลับไปแบบสายฟ้าแลป ถ้าผมยืมสินค้ามารีวิวที่บ้านได้ไหมหลังจากนั้น............. เธอก็เงียบไป -_-  ผมนึกในใจเราน่าจู่โจมเร็วไป ผ่านไปครึ่งวันเธอตอบกลับมายินดีคะ ท่าทางจะไปปรึกษา เพื่อน อากง อาม่า ป่าป๋า อากิ้ม อากู๋ และอื่นๆๆๆๆอีกมากมาย แล้วลงความเห็นกันว่าไม่น่าจะมีอะไรเสียท่าทางคนเขียนรีวิวจะต๋องๆไม่น่ามีพิษมีภัย555 


เริ่มเรื่องกันซักที ผมได้นัดเข้าไปเอาสินค้าอาทิตย์ที่แล้วครับ เจอเจ้าของและน้องสาวครับ ชื่อจอยกับเอ จำไม่ได้ละใครพี่สาวใครน้องสาวแต่น่ารักทั้งคู่ครับ พี่สาวถามอะไรพอตอบไม่ได้ชอบหัวเราะ ส่วนน้องสาวยิ้มอย่างเดียว ตกลงจะรีวิวสินค้าหรือรีวิวเจ้าของกันแน่ 555

ผม      ทำไมมาเปิดร้านเครื่องเขียนครับ ( นึกในใจกำไรน้อยนะ ต้องใจรักมาก่อน)

ละมุน  ชอบคะ แต่เดิมทำ packing ของ garment คะ ( พวกกระดาษรองเสื้อ พลาสติกปก อื่นๆ)

ผม      เปิดมากี่ปีแล้วครับ

ละมุน   แต่ก่อนเปิดที่ Lido คะ เปิดได้หนึ่งปี แล้วค่อยย้ายมาที่นี่คะ สยามซอย10 แต่ก่อนขายสินค้าที่              เกี่ยวกับ จำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับการออกแบบและแฟชั่นคะ 

ผม       นึกในใจแต่งงานยังเนี่ย ถามแทนสมาชิกนะครับ ผมลูกสองแล้ว

ละมุน   ตอบในบัดดล แฟนจะเป็นคนหาของ(จบข่าว555) ตอนนี้ เป็นตัวแทนของ Midori, Fashionary,            สีน้ำ Shinhan กับ Daniel Smith , marker ยี่ห้อ Touch และอื่นๆ

ผม       สีน้ำ Shinhan ดียังไงครับ ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับสีน้ำ

ละมุน    ราคาไม่แพงสีสดเวลาใช้ผสมน้ำน้อยก็ละลายได้ดี ขายดีในเกาหลี มีให้เลือกสองเกรด Artist                 7.5 ml มี 30 เชดสี ราคา 70 บาทต่อหลอด กับ เกรด Premium 15 ml มี 84 เชดสี เริ่มจาก                   ราคา 130 บาท ต่อหลอด

ผม       สีน้ำ Danial Smith made in USA ดียังไงครับ 

ละมุน   เป็นสีน้ำที่ดีที่สุดในเวลานี้คะ เป็นสีที่ไม่ได้สังเคราะห์ขึ้นมาคะ แต่ใช้แร่มาบด เลยทำให้สีดู                   ธรรมชาติและติดทนนานและสีไม่จางเมื่อเก็บไว้นานๆ

สั้นๆนะครับก่อนจบ ขอรีวิวสินค้าของ Fome  made in Italy เขามีสินค้าหลายตัวครับ ลองเข้าไปดูครับ http://www.fome.it/index.php?lang=en แต่ตัวเด่นๆของเขาคือจานสีสำหรับพกพาครับ



ผมแนะนำสองรุ่นนี้นะครับ รุ่นพกพาขนาดเล็ก กับรุ่นพกพาแบบมืออาชีพครับ

1. รุ่นขนาดไซด์นามบัตร 

 - ปรับขนาดถาดได้ตามต้องการ เป็นแม่เหล็กดูด มั่นใจได้ว่าถาดไม่หล่น













- เหมาะสำหรับคนชอบเดินทาง  ไม่เป็นภาระขนาดเล็กพกพาง่าย













- มีขนาดของถาดให้เลือกหลายแบบ















2. รุ่นมืออาชีพ ผมว่าเขาออกแบบได้สวยและเล็กดีครับ ถ้าผมชอบวาดรูปผมอดใจไม่ไหวแน่ ที่สำคัญน้ำหนักใช้ได้เลย เวลาคับขันใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวก้เหมาะมือมากๆ 555




มีห่วงไว้จับเวลาวาดรูปด้านหลัง




















ข้อดีของรุ่นนี้ ระบบที่ปิดสนิทอากาศเข้ายากทำให้สีแห้งช้า



ถอดเหล็กที่ยึดออกใส่ถาดสีพลาสติกเข้าไปครับ ถาดสีแยกขายต่างหากครับ

เวลาจับและกางออกมาเป็นแบบนี้ครับ




ริงๆคุยมากกว่านี้ครับ เอาเแต่เนื้อๆนะครับน้ำเขียนไปเยอะแล้ว555 ผมจะไล่เขียนซักสามตอนนะครับ จริงๆผมอยากเขียนเกี่ยวกับสินค้าของ Midori และ สมุด Fashionary ครับตามอ่านในฉบับหน้านะครับ


คนรักดินสอและปากกา




















วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ดินสอกด Social Slencil mechanical pencil ดินสอกดสำหรับวันพรุ่งนี้


ดินสอกดรุ่นคุณปู่แต่สวยตลอดการ The Social Slencil pencil

ที่มาของรูปมาจาก เวปดินสอกดของ Dave

social slencil mechanical pencil




มีสมาชิกหลายท่านถามผมว่ารูปหน้าปกของผมเป็นดินสอกดรุ่นไหน ผมชอบรุ่นนี้มากเป็นพิเศษ เพราะออกแบบได้สวยงามมากและลงตัว ลองถามใครก็ได้ในสิบคนต้องบอกว่าสวยทุกคนไม่เชื่อลองถามดูแล้วได้ความยังไงมาเล่าให้ฟังบ้างนะ เอานะผมมั่นใจ  ลองคิดดูนะครับ รุ่นนี้ออกแบบมาแล้ว 70 กว่าปีแสดงว่าเค้าล้ำมากๆ เขาเลยใช้สโลแกน คำว่าTomorrow ' s pencil  ถ้าไม่เกินเลยความจริงน่าจะชื่อว่า Future 's pencil ไปด้วยเลยท่าจะดีครับ  


A slencil




แต่ก่อนแค่เหรียญดียวเองครับ รับไหมครับ เอากี่โหลดีครับ 555
The Social Slencil เป็นดินสออกแบบให้มีความหนาน้อยเพื่อ.ให้ง่ายต่อการพกพาและจับถนัดมือ ซึ่งถูกผลิกโดย บริษัท The Slencil Company of Orange,Mass, USA ซึ่งบริษัทนี้ก็ยังมีอยู่ แต่เดิมเค้าทำเครื่องเขียนและเน้นตัวคล้องปากกาด้วย จำได้ไหมในเค้าเตอร์ จะมีปากกาแบบมีสายที่ป้องหายแล้วจะมีแท่นเสียบปากกามาให้ด้วยนึกภาพให้ออกนะ


รุ่นที่มีชื่อของเขาจะเป็นรุ่น CA 1945 ความยาว 115 มิล และหนา 2mm คนออกแบบนั้นเป็นเจ้าของบริษัทด้วยครับ เค้าชื่อ Carl C Harris  จริงๆแล้วเขาออกแบบให้ใช้กับสมุดโน้ตของเขาเอง ทำให้ง่ายต่อกาพกพาครับ ดินสอบางๆแบบนี้เวลาพกกับกระเป๋าเสื่อก็แนบกับกระเป๋าเสื่อ เวลาหนีบไว้กับสมุดโน้ตทั้วไปก็แนบได้ดีมากครับสมุดโน้ตไม่นูนออกมาทำให้เวลาถือสมุดกระชับมือครับ

กลไกการกดไม่มีอะไรมากครับใส่ไส้ดินสอหนึ่งมิลลิเมตรเข้าทางหัวปากกาจนเสียงดังคลิก เวลาจะเลื่อนไส้เขาจะมีปุ่มอยู่ตรงกลางคอยหมุนให้ไส้ออกมา จริงๆแล้วด้านท้ายถ้าดึงจุกออกมาจะมียางลบด้วยนะครับ ปัจุบันจุบันยังมีขายอยู่นะครับแต่เค้าผลิดออกมาแต่รุ่นที่เป็นพลาสติกแทน และ ใช้ชื่อว่า Tomorrow 'S pencil แทนใครอยากได้ก็หาจาก ebay นะครับ

มาดูวิะธีการผลิตและขึ้นรูปกันตามรูปข้างล่างนะครับลองดูครับต้องใช้การปั้มกี่รอบถึงจะได้รูปแบบตามต้องการครับ

รับซักด้ามไหมครับ 
จริงๆรุ่นนี้หน้าตาจะเหมือน Midori รุ่น slimmy ครับ

 คนรักดินสอและปากกา                               www.pencilspens.com                                www.facebook.com/pencil2pen





การขึ้นรูปต้องใช้ถึง 10 ขั้นตอนเลยนะครับ

วันอาทิตย์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ดินสอกดไส้ขนาดใหญ่ ( Lead Holder) รีวิว Kitaboshi, Metaphys Locus, Lamy ABC, Caran D'ache

ย้ายบ้านใหม่ครับ ตามมาที่ www.pencil2pens.com

Lead holder 

มาแล้วครับตามสัญญาที่เคยมีให้กัน รีวิวจากน้องสาวแสนสวย และ พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋า เธอเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งมีความรักในเครื่องเขียนชนิดหาตัวจับยากและไม่เคยจับซักที(รู้จักกันในเนี้ยแหละ) ไม่อยากจะบอกว่าเธอยังโสดอยู่ ใครสนใจโปรดติดตามเธอ(ติดตามงานเขียนของเธอนะ555)

สวัสดีค่ะมิตรรักแฟนเพจ ทานย่ากลับมาอีกแล้ว เนื่องด้วยเพิ่งซื้อดินสอใหม่มา แล้วเอาไปอวดแอดมิน เขาเลยบอกไหนๆจะมาเล่าให้ลุงฟังแล้ว มึงไปเขียนเรื่องมาเลยดีไหม จะได้เอามาลงเพจ อ่ะโอเค รอให้ลุงพูดอยู่น่ะแหละ จะเขียนมาเสนอเลยก็กะไรอยู่ (ฮา)

หลีด โฮเด้อ คืออะไร ถ้าแปลง่ายๆตามความเข้าใจของเรามันคืออออออ “ดินสอกดที่ต้องเหลา” 
งงมะ ถ้าไม่งง แปลว่ารู้จักสิ่งนี้แล้ว ก็แล้วจงปิดหน้าต่างนี้ซะ (ฮา) ส่วนใครที่งง คือว่า lead holder เนี่ยนะมันเป็นดินสอกดที่ใส้ใหญ่กว่าดินสอกดปกติ (นิยามดินสอกดปกติของเราคือ ดินสอกดที่ใช้ใส้ 0.5) พอใส้มันใหญ่ เขียนไปๆมันก็จะทู่ใช่มะ ก็ต้องเหลานั่นเอง 


ส่วนนิยามแบบวิชาการ คือ 

Leadholder (or Lead Holder) can be broadly defined as any durable instrument that is designed to hold and be refillable with consumable pieces of graphite so that the graphite can be conveniently used for drawing or writing. Within this definition there are subsets such as porte-crayons, mechanical pencils, and drafting leadholders. This website is primarily concerned with drafting leadholders, which are commonly called by draftsmen in the US as simply leadholders



แปลย่อหน้าข้างบนคือ เครื่อมือที่มีที่ใส่ graphite (คือคาร์บอน -> คือใส้ดินสอนั่นแล) เพื่อเอาไว้ใช้เขียน หรือวาด (นี่เค้าเขียนมาตั้งยาวมึงแปลแล้วเหลือแค่นี้เร๊อะ!!) 

โอเค เข้าเรื่องๆ 

ไอ้เจ้า Lead holder จะแบ่งแยกมันออกมาเป็น 3 ประเภท จากลักษณะกลไกการจ่ายใส้

1. Twist แบบหมุนเพื่อให้ใส้ออกมา เราจะเอายาวเท่าไหร่ก็หมุนไป 
2. Drop Clutch แบบที่กดหนึ่งครั้งแล้วใส้ไหลออกมายาวเฟื้อยยย (อันนี้เป็นแบบที่พบได้ทั่วไป)
3. Clutch Knock แบบที่กดหนึ่งครั้งแล้วใส้ไหลออกมาพองาม (เหมือนดินสอกด0.5 ธรรมดา กดหนึ่งทีใส้ออกมาพอเขียน)

Lead holder นั้นแบบทั่วไปจะเป็นแบบที่ใส่ใส้ 2.0 มม. แต่ก็มีที่ใหญ่กว่านั้น



โอเควันนี้เราจะมาดูกันถึง 4 ยี่ห้อและกบเหลาอีกนิดหน่อย 

(1) Kitaboshi Lead Holder - 2 mm (Japan) ราคาประมาณ 300-400 บาท


อันนี้ผิวสัมผัสช่วงตัวเป็นไม้ลื่นๆ มียางลบ เป็นแบบที่กดทีนึงแล้วใส้ออกมาพอเขียน เวลากดไม่ต้องคอยประคองใส้ ช่วงปลายดินสอ เป็นเหล็กทำให้มีน้ำหนักพอประมาณ ช่วยในการ balance ได้ดี 

(2) Metaphys Locus 2 mm (Japan) ราคาประมาณ 2000 ต้นๆ 



ตอนที่จับครั้งแรก มันรู้สึกหนักมากเลย (หนักกว่า Kaweco AL ที่มีซึ่งทำจาก Aluminum) เลยตกใจเล็กๆ แต่หลังจากใช้เขียนจริงๆแล้วรู้สึกว่าแม่งเฮี้ย โคตรดีเลยอ่ะ คือว่าบาลานซ์มันดีมาก 

แท่งด้านล่าง Kaweco นะ
แต่อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละคน เพราะเราเป็นคนชอบดินสอที่ค่อนข้างมีน้ำหนัก ส่วนตัวถ้าใช้ดินสอเบา จะรู้สึกเมื่อยมือเร็ว เพราะเราจะเกรงๆมืออ่ะ ถ้าเกิดหนักหน่อยมันจะมีแรงแกว่งเวลาเขียนจะไม่เกรงมือมาก สิ่งที่ไม่ชอบคือผิวมันสากไปนิด คือเราเป็นคนชอบของสีดำด้าน ดินสอที่ชอบผิวมากเลยคือ Kaweco special AL เจ้า Metaphys มันมี finish ผิวที่ดูเอาจากเวบแล้วน่าจะเหมือน Kaweco แต่ว่าพอจับของจริงๆแล้วมันสากกว่านิดนึง ขัดใจเล็กๆ (ฮา) ขัดใจข้อสอง คือไอ้ดินสอ metaphysเนี่ย มันเอาไปเหลาที่กบ Staedtler ไม่ได้ เพราะตรงโคนมันไม่ slope อ่ะ แง๊ โดยรวม สี รูปทรงเขาเซ็กซี่ที่เดียวนะ ส่วนกลไก และวัสดุ ก็สมราคาเค้าล่ะนะ (ฮา)

ปล.พระเอกของเราวันนี้ เขาได้รางวัล Good Design Award ของปี 2008 ด้วยจ้า 

(3) Lamy ABC 1.3 mm (Germany) ราคาไม่น่าเกิน 500 บาท 


ดินสอกด Lamy abc
ดินสอกด Lamy abc

ดินสออันนี้เป็นแบบ twist คือหมุนเพื่อจ่ายใส้ ตรงโคนเป็นสามเหลี่ยมจับถนัดมือ น้ำหนักเบา วัสดุทนทาน ราคาสมเหตุสมผล รูปทรงสวยงาม สีน่ารักฟรุ๊งฟริ้งกระดิ่งจิงเกอเบล (มีแดงและน้ำเงิน) ใครมีแฟนซื้อฝากแฟนนี่รักตาย มีกบเหลาเข้าชุด เป็นดินสอที่เราคิดว่า ถ้าวันนึงมีลูก แล้วลูกเราโตพอที่จะรับผิดชอบอะไรได้บ้าง เราอยากซื้อดินสออันนี้ให้ลูกใช้ มันเขียนสนุก ราคาไม่แพงเว่อร์ 
ดินสออันนี้ได้รับรางวัล Red dot design award 

(4) Caran D'ache Fixpencil 2.0 mm (swiss) ราคาประมาณ 600 บาท

 ผลิตภัณฑ์ ของ Caran D'ache

คลาสสิก ขอบอกว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นคลาสสิก (จะพูดซ้ำสองรอบทำไม) คือจะเปรียบเทียบ เราว่า Cara D’ache อันนี้เหมือน body ของ Lamy safari ที่ timeless ออกมาสามสิบแปดล้านสีให้คนที่ชอบตามเก็บตามซื้อ สมัยที่ผู้เขียนเรียนอยู่ที่โรงเรียนเฉพาะทางด้านศิลปะ ใครมีเจ้าดินสอนี้ใช้นี่บั่บ ไฮโซวววว คือใช้เสร็จแล้วต้องเก็บใส่กระเป๋ากระโปรงนะเดี๋ยวโดนดอย (ขโมย) ซึ่งตอนนั้นผู้เขียนใช้ดินสอ Staedtler อยู่เลย พอโตมาเลยเก็บกด อยากได้แท่งไหนซื้อแม่งให้หมด (ฮา) 

เกร็ดความรู้เพิ่มเติม

Fixpencil คือชื่อเฉพาะของ caran d’ache ที่เป็นดินสอเป็นรูปหกเหลี่ยม (มีทั้ง 0.5, 0.7, 1, 2, และ 3 mm) ปีหลังๆพี่การัง ด๊าส เขาทำปากกาลูกลื่นทรงนี้มาขายด้วยนะเออ 

-  caran d’ache เค้า swiss made since 1915 ปีนี้เขาฉลองครบรอบ 100 ปี ออกคอลเลคชั่นที่ บั่บเซ็กซี่มากอ่ะ ชวนเสียเงินมากอ่ะ อยากได้มากอ่ะ 



มาถึงเรื่องกบ อ๊บ อ๊บ 

กบเหลานั้น เลือกเอาตามความถนัด เราชอบ Staedtler (A) กบรุ่นนี้เอาไว้เหลา leadholder โดยเฉพาะ เราชอบเพราะมันเหลาแหลมดี แล้วถ่านไม่เปรอะมือ แต่เหลาเสร็จแล้วห้ามโยนลงกระเป๋านะ เพราะถ่านมันหกออกมาได้ เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน

ใครมี Lamy ABC (B) ก็ซื้อกบมันน่ารักดีเข้าชุด เหลาดินสอ 2.0 ได้เหมือนกัน 

ถ้าเกิดใครอยากได้กบอันเดียวเหลาดินสอได้หลายแบบก็แนะนำ Kum Long Point Pencil Sharpener with Pointer (C) (Germany) เหลาดินสอธรรมดาได้ด้วย และคมมากๆๆ 

ส่วนไอ้ดินสอ pentel ข้างๆคือดินสอ 0.9mm ที่เราคิดว่าเป็นดินสอกดใส้ใหญ่ ที่ไม่ต้องเหลา ถ้ามันเกิน 1 mm เราว่าควรนับเป็น lead holder แล้ว 


จบแล้วเขียนซะยาวเลย แฮ่ก เหนื่อย 
สุดท้ายนี้
ชอบกดไลค์ ใช่กดแชร์นะก๊ะ 

คนรักดินสอกดและปากกา

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ดินสอกด Kayma by Hero

ย้ายบ้านใหม่ครับ ตามมาที่ www.pencil2pens.com

ดินสอ Lead Holder สำหรับไส้ 0.5 mm

เวลาพูดถึงดินสอกดขนาด  2 mm แบบ professional ก็ต้องนึกถึง น้อง Tanya  หรือ Staedtler นะครับ งงสิว่าน้อง Tanya มาเกี่ยวอะไรด้วย พอดีน้องเค้าสัญญาว่าจะเขียนเรื่อง Leader Holder สำหรับไส้ 2 mm หลังจากประสบความสำเร็จหลังจากบทความแรกเรื่อง สมุด Field  Notes  เลยทวงถามผ่าน รีวิวนี้ซะเลย  จริงๆผมกลัวน้องเขานะครับ แบบ เรื่อง Beautiful mind John Nade เลย  ในหนังเค้าพูดว่า petrify stupefy tremendous  กลัวจนเป็นหิน  กลัวแบบงงงวย กลัวจนตัวสั่น เพราะเขาเขียนดีมาก แบบผมกลัวว่าจะโดนแย่งความรักจากผู้อ่านเลย เคยเป็นเด็กขี้อิจฉามาก่อนนะ 555

Drama addict เรียบแบบเค้าบ้าง

เรื่องมีอยู่ว่าผมไปเยี่ยมคุณแม่แถวถนนจันทน์ แลัวนึกถึงร้านเก่าแก่ร้านหนึ่งชื่อ อุดมศิลป์ เผื่อเจออะไรโบราณบ้าง แต่ก่อนตอนเด็กผมซื้อเครื่องเขียนร้านนี้ แล้วได้พบกับเจ้าของ เจ๊แกใจดีชอบคุยเล่นกับผมบ่อยๆ แกทักผมอาตี๋ใช่ลูกเจ้าของร้าน... รึเปล่า ผมตอบว่าใช่แกบอกว่าโตขึ้นเยอะ ไม่โตขึ้นได้ไง ไม่เจอกันมา 20กว่าปีแล้ว แกบอกว่าช่วงหลังขายไม่ค่อยดีมากเมื่อเทียบกับสมัยก่อนที่ยังมีโรงเรียนไตรรัตน์อยู่ ระหว่าคุยกันผมเหลือบไปเจอดินสอ  Hero โหงวเฮ้งดีมากครับ เลยหยิบมาสองแท่ง พร้อมไส้ ราคาดินสอแค่แท่งละ ุ60 กว่าบาทเอง อยากหอมเจ๊ซักฟอดหนึ่ง เจ๊แกไม่เคยทำให้ผมผิดหว้งเลย ตั้งแต่ผมเด็กยันแก่ ผมจริงไม่เรียกว่าแก่แต่เรียกผู้มีประสบการณ์จะดีกว่านะ

Kama by Hero

Made in China ยี่ห้อนี้ทำปากกาหมึกซึมด้วยหน้าตาเหมือน Lamy เป๊ะ ผมเรียกรุ่นนี้ว่า Lama มาจากลามี่บวกอาม่า ใครสนใจลองหาดูครับบบบบ


กลับเข้าเรื่องของเราดีกว่า

วัสดุตัวด้าม น่าจะเป็นทองเหลืองหรือสแตนเลสนะ เพราะลองเอาแม่เหล็กดูดแต่ดูดไม่ติดทั้งด้าม ยกเว้นคลิปหนีบดินสอที่แม่เหล็กดูดติด งานโดยรวมสวยมาก ที่สำคัญตัวด้ามที่จับตรงที่นิ้วสัมผัสเป็นแบบไม่เรียบดูคลาสสิกมากเลยเหมือนด้ามจับของ Staedtler เลย เมืองนอกชอบกัน เค้าเรียกว่าKnurled metal grip กริปแบบนี้นอกจาก Staedtler แล้วยัง มี Zebra อีกรุ่นหนึ่งที่เมืองนอกเค้านิยมใช้และสามารถใช้เป็น tactical  pen ได้ด้วย ว่างๆจะมาเล่าให้ฟังนะครับ


กลไกการกดแบบ automatic ไส้ดินสอไหลออกมาท่าที่เราต้องการเท่านั้น หัวเป็นทองเหลืองทั้ง set เลยครับ ทนทานหายห่วงงานสวยไม่หยาบครับ



น้ำหนัก balance ดีเลยครับหนักกำลังดีไม่หนักไม่เบาไป เส้นที่เขียนออกมาหนักแน่นเลยและคม อธิบายยากตรงนี้ ต้องลองเขียนเทียบกับดินสอกดแบบเบาและหนักดูจะเข้าใจครับ

ขนาดดินสอกดไม่ใหญ่ไป กำลังดีสาวๆชอบแน่ ตัวเล็กแต่ครบเครื่องอะ



เกือบลืมไปมีที่เหลาดินสอมาให้ด้วยนะครับ อยู่ที่ตัวกดครับ ถอดออกมาได้และแหย่ไส้ดินสอเข้าไปเพื่อเป็นเหลากบ




สรุปซื้อไปเถอะถูกมากเข้าขั้นถูกและดีในโลกนี้ไม่มีซะเมื่อไรหละ แบรนด์ที่มียี่ห้อมีหนาวกัน ถ้าพกแบบไม่อยากเท่ห์ ที่จริงเค้าสวยนะแต่แบรนด์นี้ขายสาวๆไม่ได้เชื้อสายจีนไม่ใช่ผู้ดีอังกฤษ แต่เอาไว้ใช้งาน หายไม่เสียดาย ตามชื่อเค้าเลยว่า เป็น heroในใจคุณเสมอ จบละ

คนรักดินสอกดและปากกา
www.pencil2pens.com
www.facebook.com/pencil2pen





วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ดินสอกด Pentel Graphgear 1000

ย้ายบ้านใหม่ครับ ตามมาที่ www.pencil2pens.com

วันนี้ก็ถึงคิวของ ดินสอกด Pentel Graphgear 1000และผองเพื่อน ตอนหนึ่ง

ถ้าวันนี้นึกอะไรไม่ออกแล้วมีคนมาถามว่า ซื้อดินสอกดอะไรดี ผมจะตอบแบบยาสามัญประจำบ้าน เลยว่า Pentel ไง แล้วถ้ามีคำถามต่อมาอีกว่าเอาแบบดูดีหน่อยไม่แพงหน้าตาสวย ผมก็จะบอกว่า Graphgear 1000ไง จริๆก็มีอีกรุ่นที่น่าจะพอใช้ได้ Pentel SS475 รีวิวทั้งคู่เลยดีกว่าครับ

ผมจะไล่เขียนไปซักสามตอนนะครับ




เริ่มกันที่ประวัติของบริษัท Pentel ก่อนเลย

เป็นบริษัทของญี่ปุ่น ชื่อมาจาก Pen + Tell หมายถึงการเล่าเรื่อง โรงงานมีอยู่ที่ Janpan, Taiwan, France

มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่สามเรื่อง

1. เป็นคนคิดปากกาที่ ที่เขียนกระดาน white board แบบลบได้ non-permanet marker
2. เป็นคนคิด ปากกาแบบหัว fiber ที่เป็นเส้นใยเล็กๆมารวมกัน
3. เป็นคนคิด ปากกาพู่กัน (Pentel Pocket Brush) ที่มีศิลปินเอาไปเขียนวาดภาพ เช่น  Neal Adams ที่วาดการ์ตูนฮีโร่, Kim Jun Ji ที่วาดการ์ตูนของเกาหลี และ ศิลปิน อีกหลายท่าน สามารถหาซื้อได้ที่โตคิว ที่ Central World นะครับด้ามหนึ่งประมาณ180 บาทครับ


ปากกาพู่กันของ Pentel มีหลายสี













                                                                  Kim Jun Ji

มาเริ่มเรื่องรีวิวของเราก่อนดีกว่า ดินสอกด Pentel Graphgear 1000 เป็นรุ่นที่ใช้ในการเขียนแบบ แต่เราเอามาใช้งานทั่วไปได้ ราคาประมาณ 320 บาทครับ

คิดไม่ออกบอก Pentel เพราะสินค้าเค้ามีตั้งแต่ถูกถึงแพง แล้วดินสอกดใช้ดีกันทุกรุ่นเลย


มีแบบไส้ดินสอขนาด  0.3, 0.4, 0.5, 0.7, 0.9 mm เค้าแยกขนาดใส้ดินสอตามสีของเจลด้ามจับกับสีของตัวหนังสือเลยดูตามรูปละกันะครับ จริงๆผมอยากได้สีฟ้าแต่ขนาดไส้ดินสออยู่ที่ 0.7 mm เสียดาย ผมว่าเค้าทำแบบนี้ง่ายต่อการสต๊อกของ ไม่ต้องมีหลายสีในแต่ละขนาดของไส้ดินสอ

หน้าตายังมาจากอวกาศเลย  มองแวบแรกๆก็ยังไม่ค่อยเข้าตา แต่ชอบที่วัสดุของเขา มองไปนานๆเริ่มสวยละ สุดท้ายซื้อเก็บไว้ดีกว่า(ผมซื้อหลังจากแต่งงานแล้ว ผมเข้าใจคนออกแบบละ ว่าเค้ามีแรงบันดาลใจอะไร ทำไมถึงออกแบบหน้าตาดินสอเป็นแบบนี้) ส่วนที่ค่อนข้างขัดตาผมคือ คลิปหนีบดินสอ ออกแบบเหมือนที่หนีบผ้าเลย สงสัยคนออกแบบถูกภรรยาบังคับให้ซักผ้า การออกแบบเลยสะท้อนถึงความรู้สึกในตอนนั้น และอีกเหตุผลสงสัยแกมีความฝันอยากเป้นนักบินอวกาศ แต่แกต้องทำงานบ้านที่บ้านด้วย งานเลยสะท้อนออกมาแบบขาดๆเกินๆอะ

ลองถอดออกมาให้ดูนะครับ 
















วัสดุดีมีส่วนของโลหะอยู่เยอะ ดูดีมีราคา ที่จับมีเจลนิ่มๆที่ออกแบบมาได้ดีและสวย ไม่ใหญ่เทอะทะเกินไป ผมชอบส่วนที่เป้นด้ามจับเจลนี้มากเลย ห้วกลไกเป็นทองเหลืองทั้งหมด ทนแน่ๆขอบอกใช้จนลืมเบย




หัวดินสอกดหดได้ทำให้เวลาตกไม่พัง เวลากดตูดดินสอ หัวดินสอกดจะโผล่ออกมาแล้วเวลาที่เราต้องการเก็บหัวดินสอกดเข้าไป ให้กดทีคลิปหนีบผ้าแทน555 กลไกไม่ค่อยนุ่มนวน เวลาหดหัวดินสอกดนี่แหละ เสียงดังไปหน่อยอย่าเผลอไปกดเข้ากดออกนะครับ คนข้างๆรำคาญแย่เลยครับ ดูจากภาพตอนหดหัวดินสอกับตอนไม่หด รุ่นนี้มีตัวปรับคอยบอกว่าไส้ดินสอที่ใส่เข้าเป็น HB,B หรือ H ด้วยครับ



น้ำหนักดี ไม่หนักเกินไปและด้มจับมีขนาดไม่ใหญ่มาก สาวๆน่าจะใช้ได้ สมดุลดี ไม่หนักหัวหรือท้าย ว่างๆจะซื้อเครื่องชั่งมาชั่งในแต่ละรุ่นที่รีวิวในกระทู้ของผมทั้งหมดเพื่อเปรียบเทียบ  

เวลาเขียนถนัดมือมากไม่รู้สึกว่าหัวดินสอกดสูงเกินไป ทั้งๆที่ดูภายนอกเหมือนจะสูง

คลิปหนีบผ้าเค้าออกแบบให้หนีบกระดาษได้มากถึง 15  แผ่น หนีบกับสมุดได้เลยสะดวกดี แล้วเวลาเหน็บกับกระเป๋าเสื้อก็หนีปแน่นดีโอกาสตกหายยาก




มียางลบมาให้ด้วยแต่ไม่มีเข็มเอาไว้ดันไส้ดินสอออกเวลาหัวดินอุดตัน

สรุป ซื้อเก็บไว้ได้ใช้ถึงลูกถึงหลานเลย เกือบลืมไป ไส้ดินสอเวลากดจะออกมาสั้นกว่ายี่ห้ออื่น อาจะรำคาญใจได้ แต่ถ้าเป็นรุ่นไส้ดินสอขนาด 0.3 mm จะดีตรงที่เวลากดไส้ไม่ยาวจนเกินไปทำให้ไม่หักง่าย
อีกเรื่องนะครับลืมบอกไป เวลาไส้ดินสอยาวไปเวลาดันกลับจะหน่วงๆมือนิดหนึ่งนะครับ ไม่เหมือนรุ่นอื่นๆที่เคยเจอ


รีวิว Pentel SS475



ราคาประมาณ 200 กว่าบาท 

น้ำหนักเบาเขียนได้ดี แต่ชอบความรู้สึการจับของ graph 1000 มากกว่า ด้ามจับเล็กสาวๆชอบแน่

วัสดุดี น่าจะทน แต่ที่ชุบทองไว้น่าจะลอกง่าย แค่ทิ่งไว้ก็มีขี้เกลือขึ้นแล้วครับ ราคาแค่นี้อย่าคิดมากครับ

รุ่นนี้เก็บหัวดินสดกดได้ด้วยครับ

สิ่งที่ไม่ชอบกลไกหัวกด ตรงที่หนีบหัวทองเหลือง เป็นพลาสติกบางไปหน่อยน่าจะพังง่ายถ้าใช้ไปนานๆ และเวลากดดินสอ ระยะการกดจะรู้สึกกดได้แบบสั้นๆตื้นๆให้ความรู้สึกไม่ดีเลย เหมือนกดแล้วไม่สุด ไส้ดินสอออกมาสั้นด้วยครับ




สรุป รุ่นนี้วัสดุดีกว่รุ่นถูกของ Pentel แต่ความรู้สึกในการกดไส้ดินสอรุ่นล่างๆทำได้ดีกว่าครับ


คนรักดินสอและปากกา